ในการงานก่อสร้างหรือซ่อมแซมอาคาร “สี” ไม่ได้เป็นแค่ตัวช่วยเพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันพื้นผิวจากความชื้น แสงแดด และสารเคมีต่าง ๆ การเลือกชนิดของสีให้เหมาะกับพื้นผิวแต่ละประเภทจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยยืดอายุงาน ลดปัญหาการหลุดลอก และประหยัดงบในระยะยาว
1. พื้นผิวปูน (ผนัง, ฝ้า, เพดาน)
ลักษณะพื้นผิว: มีรูพรุนสูง ดูดซับน้ำง่าย และมีความชื้นสะสม
สีที่เหมาะสม:
-
สีอะคริลิก (Acrylic Emulsion Paint): ใช้งานง่าย แห้งเร็ว ยึดเกาะดี เหมาะกับงานภายในและภายนอก
-
สีซิลิโคน (Silicone Paint): ทนน้ำและรังสี UV สูง เหมาะสำหรับอาคารภายนอกที่ต้องการความคงทนมาก
-
สีรองพื้นปูนใหม่ (Sealer): จำเป็นมาก โดยเฉพาะปูนที่อายุน้อยกว่า 28 วัน เพื่อป้องกันด่างจากปูนกัดกร่อนสีจริง
เทคนิคการทา:
-
ตรวจสอบความชื้นของผนัง (ไม่เกิน 14%) ก่อนทา
-
ใช้สีรองพื้นปูนใหม่หรือเก่าตามสภาพพื้นผิว
-
ทาสีจริงอย่างน้อย 2 ชั้น เพื่อความเรียบเนียนและปกปิดสีพื้นได้ดี
2. พื้นผิวเหล็ก (โครงสร้าง, รั้ว, ประตู, เหล็กกล่อง)
ลักษณะพื้นผิว: มีโอกาสเกิดสนิมเมื่อโดนความชื้นและออกซิเจน
สีที่เหมาะสม:
-
สีน้ำมัน (Synthetic Enamel Paint): ให้ผิวมันวาวและป้องกันสนิมได้ดี
-
สีอีพ็อกซี (Epoxy Paint): ทนสารเคมีและแรงกระแทกสูง เหมาะกับงานโรงงานหรือพื้นที่อุตสาหกรรม
-
สีรองพื้นกันสนิม (Red Oxide Primer / Zinc Phosphate Primer): เป็นชั้นสำคัญก่อนทาสีจริง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมจากภายใน
เทคนิคการทา:
-
ขัดล้างคราบน้ำมัน ฝุ่น และสนิมออกให้หมดก่อนทา
-
หากมีสนิมมาก ให้ใช้แปรงลวดหรือเครื่องขัดสนิมจนถึงเนื้อเหล็ก
-
ทารองพื้นกันสนิม 1 ชั้น และทาทับด้วยสีจริง 2 ชั้นขึ้นไป
3. พื้นผิวไม้ (วงกบ, บานประตู, เฟอร์นิเจอร์)
ลักษณะพื้นผิว: ดูดซึมน้ำได้ง่าย ยืดหดตามอุณหภูมิ
สีที่เหมาะสม:
-
สีน้ำมันสำหรับไม้: ให้ความเงาและปกป้องจากความชื้นได้ดี
-
สีย้อมไม้ (Wood Stain): แสดงลายไม้ชัดเจน เหมาะกับงานตกแต่ง
-
แลกเกอร์ (Lacquer) หรือ โพลียูรีเทน (Polyurethane): ใช้กับงานภายในที่ต้องการผิวเงาสวยงาม
เทคนิคการทา:
-
ขัดผิวไม้ให้เรียบและสะอาดก่อนทา
-
หากเป็นไม้เก่า ให้ลอกสีเดิมและขัดให้ถึงเนื้อไม้
-
ทาสีรองพื้นไม้ 1 ชั้น ตามด้วยสีจริง 2 ชั้น หรือสีย้อมไม้ 3 รอบบาง ๆ
4. พื้นผิวอื่น ๆ ที่ควรพิจารณา
ประเภทพื้นผิว สีที่แนะนำ หมายเหตุ
อะลูมิเนียม / โลหะเคลือบ สีอีพ็อกซี + รองพื้นเกาะโลหะ ต้องขัดผิวให้หยาบก่อน คอนกรีตพื้น สีอีพ็อกซีพื้น / สีโพลียูรีเทน ทนการสึกหรอสูง ใช้ในโกดังหรือโรงงาน พลาสติก / ไฟเบอร์ สีสเปรย์อะคริลิก ใช้ร่วมกับไพรเมอร์สำหรับพลาสติก
5. เคล็ดลับการเลือกสีอย่างมืออาชีพ
-
อ่าน ข้อมูลทางเทคนิค (Technical Data Sheet – TDS) ของสีทุกครั้ง เพื่อดูค่าการยึดเกาะ ความหนาแห้ง และการใช้งานที่เหมาะสม
-
ใช้ อุปกรณ์ทาให้เหมาะกับชนิดสี เช่น ลูกกลิ้งสำหรับงานผนัง, แปรงสำหรับซอกเล็ก, หรือเครื่องพ่นสำหรับพื้นที่กว้าง
-
อย่าผสมยี่ห้อสีต่างกัน ในระบบเดียวกัน เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้สีไม่ยึดเกาะ
-
คำนึงถึง สภาพแวดล้อมหน้างาน เช่น แสงแดดจัด ความชื้นสูง หรือใกล้ทะเล ซึ่งส่งผลต่อการเสื่อมของสี
สรุป
การเลือกสีให้เหมาะกับพื้นผิวไม่ใช่เรื่องของ “ความสวย” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของ “วิศวกรรมพื้นผิว” ที่ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของวัสดุ สภาพแวดล้อม และระบบสีที่ถูกต้อง หากช่างหรือผู้รับเหมาศึกษาและวางระบบสีให้เหมาะสมตั้งแต่ต้น งานจะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น สวยงาม ทนทาน และลดการซ่อมบำรุงได้อย่างมาก